ที่ตั้งสาขา
Menu
TH EN
094 678 2888

หม้อ(น้ำ)ร้อน ดูแลอย่างไร

หมวดหมู่: ความรู้คู่รถ | 11 มิถุนายน 2561 | จำนวนเข้าชม (3,368)

 

หม้อน้ำ (Radiator) คือ อุปกรณ์ระบายความร้อน ของเครื่องยนต์ อาศัยปั๊มน้ำเป็นตัวหมุนเวียนน้ำ โดยจะรับน้ำร้อนมาจากเสื้อและฝาสูบเข้ามาสู่ด้านบนของหม้อน้ำ ก่อนจะไหลไปตามท่อลักษณะแบนเล็กที่เชื่อมติดกับรังผึ้ง (ครีบระบายความร้อน) ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติถ่ายเทความร้อนได้ดีและรวดเร็ว เมื่อน้ำร้อนเหล่านี้ เคลื่อนตัวสู่ด้านล่าง ก็จะถ่ายเทความร้อนออกไปให้รังผึ้ง ขณะเดียวกันเมื่อมีลมปะทะจากภายนอก หรือพัดลมหม้อน้ำทำงาน ความร้อนที่รังผึ้งก็จะถูกระบายสู่อากาศ ให้เครื่องยนต์อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะกับการทำงานระหว่าง 85-92 องศาเซลเซียส โดยจะมีวาวล์น้ำเป็นตัวเปิดปิดเพื่อรักษาอุณหภูมิร่วมด้วย

ข้อปฏิบัติการดูแลรักษาหม้อน้ำ

-ควรตรวจดูระดับน้ำทุกๆ ครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ หรืออย่างน้อยทุกๆ 2-3 วัน สำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปี และอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สำหรับรถใหม่อายุไม่เกิน 5 ปี ซึ่งปรกติระดับน้ำควรอยู่ตรงคอหม้อน้ำพอดี หรืออยู่ระหว่างกึ่งกลางขีด MAX และ MIN สำหรับรถที่มีหม้อพักน้ำหมั่นตรวจดูรอยรั่วตามที่จุดต่าง ๆ อย่างเช่น ท่อยางหม้อน้ำ ครีบรังผึ้ง ปั๊มน้ำ ฯลฯ หากพบรอยรั่วซึม ควรทำการซ่อมแซมแก้ไขทันที

-ให้เติมน้ำที่สะอาดลงไปในหม้อน้ำเท่านั้น เพื่อป้องกันมิให้หม้อน้ำ หรือทางเดินของหลอดรังผึ้งหม้อน้ำเกิดการอุดตัน ถ้าเป็นไปได้ น้ำที่เราใช้ดื่มดีที่สุดสำหรับใช้เติมหม้อน้ำ และควรถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุก ๆ 4-6 เดือน หรือเมื่อเห็นว่าน้ำในหม้อน้ำสกปรกมากแล้ว เช่น มีสนิมหรือคราบน้ำมัน

-ตรวจดูสายพานหน้าเครื่อง ไม่ควรให้หย่อนหรือตึงเกินไป ตามปรกติเมื่อใช้มือกดลงบนสายพาน ควรยุบตัวลงประมาณ ½-1 นิ้ว ตรวจดูครีบรังผึ้ง ของหม้อน้ำ อย่าให้พับงอปิดช่องทางผ่านของลม ไม่ควรให้สกปรกด้วยดินโคลนและคราบน้ำมัน เพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ยาก เครื่องยนต์อาจร้อนจัด และหากครีบพับงอ ให้ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบาง ๆ ดัดให้ตรง หรือถ้าครีบสกปรกมากให้ทำความสะอาดโดยใช้ลมเป่า หรือน้ำร้อนที่มีความดันสูงพอพ่นย้อนทิศทางลมเข้า

-พัดลมระบายความร้อนควรอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกหัก หรือบิดงอเสียศูนย์ เพราะจะทำให้ปั๊มน้ำชำรุดได้ แต่ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้า ต้องคอยตรวจเช็กว่าพัดลมหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือไม่ เพราะถ้าพัดลมหมุนด้วยรอบที่ช้าลง การระบายความร้อนให้หม้อน้ำรถยนต์ก็จะด้อยตามไปด้วย

-ไม่ควรติดเครื่องยนต์โดยไม่ได้ปิดฝาหม้อน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดตะกรันในหม้อน้ำและภายในเครื่องยนต์ เนื่องจากน้ำในรังผึ้งหม้อน้ำระเหยออกมา เมื่อเกิดตะกรันในหม้อน้ำ หรือบริเวณท่อทางเดินน้ำในเครื่องยนต์มาก ๆ จะเป็นผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะการระบายความร้อนไม่ดีพอ หมั่นดูแลเกจวัดความร้อนต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หากเสียใช้การไม่ได้ให้เปลี่ยนใหม่ทันที

-หากน้ำในหม้อน้ำแห้ง ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน และมีอุณหภูมิสูง ไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในทันที ให้ติดเครื่องเดินเบาสักระยะหนึ่ง พอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ลดลง แล้วค่อย ๆ เติมน้ำที่สะอาดลงไปทีละน้อยด้วยความระมัดระวัง

หากปฏิบัติได้ทั้งหมดตามที่กล่าวมารับรองว่าหม้อน้ำรถของท่านจะมีสุขภาพดีอยู่คู่รถไปได้นานแสนนานเลยทีเดียว


วิธีแก้ไขกรณีหม้อน้ำรั่วจนทำให้หม้อน้ำแห้ง จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

กรณีหม้อน้ำรั่วจนทำให้หม้อน้ำแห้ง ในเบื้องต้น เมื่อจอดเสร็จแล้ว ให้รีบเปิดฝากระโปรงหน้ารถ เพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องให้เร็วขึ้นจากนั้นให้รอจนเครื่องยนต์เย็นลง จึง ค่อยเปิดฝาหม้อน้ำ โดยใช้ผ้าช่วยจับเพราะอาจจะยังร้อนอยู่บ้าง หรือสวมถุงมือถ้ามีอยู่ อย่าเอาหน้าเราเข้าไปใกล้หม้อน้ำ เพราะแรงดันน้ำใน หม้อน้ำ ที่น้ำยังอาจจะร้อนอยู่นั้น อาจพุ่งขึ้นมาโดนหน้าเราจนได้รับบาดเจ็บได้

ให้เติมน้ำทีละน้อยๆอย่างช้าๆ โดยทิ้งช่วงเวลาห่างกัน 5 นาที ในเวลาเดียวกันคอยสังเกตุดูระดับน้ำในหม้อน้ำ หากน้ำที่เติมลงไปแล้วไม่เต็กสักทีแถมมองไปใต้รถมีน้ำไหลไหลรั่วออกมาหมด สันนิฐานได้ ก่อนเลยว่า หม้อน้ำแตก ให้แจ้งอู่ซ่อมรถได้เลย เพราะเราคงจะทำอะไรเองไม่ได้แล้ว ให้อู่มาลากรถไปแก้ไขต่อไป แต่ถ้าน้ำรั่วซึมเพียงเล็กน้อย ก็ยังสามารถขับรถต่อไปได้แต่อย่าขับเร็ว ให้หมั่นสังเกตเข็มวัดอุณหภูมิบนหน้าปัดรถ และเมื่อความร้อนขึ้นสูงให้หยุดรถเป็นระยะๆ แล้วทำแบบ เดิมๆ จนกว่าถึงจุดหมายปลายทางและนำรถไปซ่อมหม้อน้ำ หรือแก้ไขต่อไป

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

-www.hondaloverclub.com

-กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

-บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) 

อัพเดทข่าวสารผ่านทาง LINE
ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นสุดคุ้มให้คุณได้รับทราบ
Add Friend ที่ ID : @masterusedcar

อื่นๆ

ข่าวกิจกรรม
20 ตุลาคม 2566
ข่าวรถยนต์
22 กันยายน 2566
ข่าวรถยนต์
22 กันยายน 2566
ข่าวรถยนต์
25 กรกฎาคม 2566
การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ของเรา และเรามีความประสงค์จะใช้คุกกี้ทางเลือกเพื่อช่วยให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา โดยเราจะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้เราเปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว

ท่านสามารถศึกษารายละเอียดของการใช้คุกกี้ได้จากนโยบายการใช้คุกกี้ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้ ทั้งนี้ หากท่านกดยอมรับคุกกี้ทั้งหมด จะหมายความว่าท่านยินยอมให้เราบันทึกและใช้คุกกี้ทั้งหมดจากอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าเว็บไซต์ของเรา รวมถึงเพื่อทำให้การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บและการวิเคราะห์การใช้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมทางการตลาดของเรา

ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด